Blog

KNOWLEDGE

10 เทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต 10 แนวทางการปรับตัว

June 30, 2020

ปัจจุบันเทคโนโลยีใหม่ๆ ถูกพัฒนาในอัตราเร่งที่สูงกว่าในอดีตอย่างเทียบกันไม่ติด ในอนาคตข้างหน้าอีกไม่กี่ปี อาจเกิดนวัตกรรมใหม่ๆ มากมายจนบางทีคุณเองก็อาจจะปรับตัวตามไม่ทัน

บทความนี้จะนำคุณมาพบกับ 10 เทคโนโลยีที่กำลังถูกพัฒนา และจะสร้างรากฐานใหม่ของโลกในอนาคต และเป็นที่สนใจของเหล่านักลงทุนทั่วโลก มาดูกันเลยว่าจะมีอะไรบ้าง

Bioplastic

ในแต่ละปีทั่วโลกจะใช้พลาสติกรวมกันกว่า 300 ล้านตัน แต่มีจำนวนไม่ถึง 15% ที่ถูกนำมารีไซเคิล ส่วนที่เหลือจะส่งไปกำจัดด้วยการเผา หรือฝังไว้ใต้หลุมขยะ ซึ่งใช้ระยะเวลาหลายร้อยปีกว่าจะย่อยสลายได้ โลกในอนาคตจึงอาจเต็มไปด้วยขยะพลาสติก

โดยทั่วโลกเองก็ตระหนักถึงผลกระทบนี้ จึงเริ่มมีการรณรงค์ให้ห้างร้านต่างๆ งดใช้ถุงพลาสติกในการจับจ่ายซื้อของ แต่ก็ส่งผลให้เกิดความไม่สะดวกต่อผู้บริโภค วัสดุที่สามารถเข้ามาแทนที่พลาสติกแต่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม จึงได้รับความสนใจมากขึ้น

Bioplastic หรือพลาสติกชีวภาพ เป็นเทคโนโลยีที่สังเคราะห์ส่วนประกอบจากพืชเพื่อสร้างเป็นวัสดุทดแทนพลาสติก แม้ความแข็งแรงคงทนจะไม่สามารถเทียบเท่ากับพลาสติกแบบดั้งเดิม แต่ก็สามารถย่อยสลายได้รวดเร็วกว่า และที่สำคัญไม่ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม

ผลกระทบที่พลาสติกสร้างให้กับโลกเริ่มถึงจุดวิกฤตแล้ว ในยุคสมัยที่ผู้คนให้ความสำคัญกับธรรมชาติมากขึ้น Bioplastic จะกลายเป็นส่วนสำคัญที่จะค่อยๆ ลดการสร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม เป็นเทคโนโลยีแห่งโลกในอนาคตอย่างแท้จริง

เทคโนโลยี AI ที่เข้าใจมนุษย์มากขึ้น

AI ที่เข้าใจมนุษย์มากขึ้น

การเข้ามาของสมาร์ทโฟน ทำให้โลกของเราได้ก้าวเข้าสู่ยุคของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence - AI) อย่างแท้จริง ด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ อย่างระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ ท่าทาง น้ำเสียงของมนุษย์ ซึ่งทำให้เกิดการเก็บข้อมูล Big Data อย่างมหาศาลจากฟังก์ชั่นเหล่านี้ ซึ่งเป็นส่วนขับเคลื่อนที่ทำให้ AI ถูกพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว

ปัจจุบัน AI ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมีทักษะที่เรียกได้ว่าใกล้เคียงกับพฤติกรรมของมนุษย์ ทั้งความสามารถในการคิดเพื่อแก้โจทย์ปัญหาต่างๆ รวมถึงการพูดคุยโต้ตอบกับมนุษย์ได้

ในช่วง 3-4 ปีมานี้เทคโนโลยี AI มีพัฒนาการที่ค่อนข้างก้าวกระโดด มีการนำ AI มาใช้ในการวินิจฉัยโรค พัฒนาระบบรถยนต์ไร้คนขับ ระบบอัตโนมัติภายในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ Social Robots หุ่นยนต์ที่ถูกพัฒนาเพื่อเป็นเสมือนเพื่อนของมนุษย์ ซึ่งสามารถโต้ตอบ และแสดงอารมณ์ได้คล้ายกับมนุษย์จริงๆ

แม้ว่า AI ในปัจจุบันจะมีความสามารถเพียงพอในหลายๆ ด้านแล้ว แต่การพัฒนา AI ก็ยังคงมีการแข่งขันสูง และยังคงพัฒนากันอย่างต่อเนื่อง ไม่แน่ว่าในอนาคตโลกของเราอาจจะมี AI ระดับสูงที่เราสามารถพูดคุย ร่วมประสานงานได้เหมือนเป็นมนุษย์คนหนึ่งเลยก็ว่าได้

​Metalens

Metalens คือเทคโนโลยีของเลนส์รูปแบบใหม่ที่มีความบางเพียงระดับไมครอน เป็นนวัตกรรมที่สร้างขึ้นมาเพื่อยกระดับคุณภาพของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้เลนส์เป็นส่วนประกอบหลัก เช่น กล้องถ่ายรูป โทรศัพท์มือถือ เซ็นเซอร์ตรวจจับภาพ รวมถึงกล้องส่องทางการแพทย์

โดยปกติแล้วเลนส์ทั่วไปจะใช้การโค้งนูนเพื่อทำการรวมแสงให้เข้ามายังจุดเดียว จึงทำให้มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แต่ Metalens นั้นแม้จะมีขนาดเล็ก แต่ก็สามารถรวมแสงทั้งหมดเอาไว้ได้ที่จุดเดียว นวัตกรรมนี้จึงอาจเป็นการปฏิวัติวงการกล้องต่างๆ เลยก็ว่าได้

ปัจจุบัน Metalens ยังอยู่ในระหว่างการพัฒนา แต่ว่าในอนาคตเลนส์ตัวนี้จะมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในด้านการแพทย์ ยิ่งกล้องส่องที่ใช้ในการรักษามีขนาดเล็กลง บริเวณที่สามารถสำรวจและหาแนวทางรักษาร่างกายมนุษย์ก็มีมากขึ้นเท่านั้น

เนื้อสัตว์สังเคราะห์

องค์การสหประชาชาติได้การคาดการณ์ว่า ในปี 2050 จำนวนประชากรมนุษย์จะเพิ่มมากถึง 9.8 พันล้านคน แน่นอนว่าความต้องการด้านอาหารเองก็เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลเช่นเดียวกัน ซึ่งเสี่ยงต่อเกิดวิกฤตการขาดแคลนอาหาร โดยเฉพาะ “เนื้อสัตว์” ที่คาดว่าจะมีความต้องการมากขึ้นกว่าปัจจุบันถึง 70%

เพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤตการขาดแคลนอาหาร เหล่านักวิทยาศาสตร์จึงให้ความสนใจกับการสร้าง “เนื้อสัตว์สังเคราะห์” (Cultured Meat) ขึ้นมา โดยสังเคราะห์ขึ้นมาจากการนำ Stem Cells ของสัตว์ต้นแบบมาเพาะเลี้ยงภายในถังปฏิกรชีวภาพ (Bioreactor) แล้วเติมสารอาหารที่จำเป็นเข้าไปเพื่อให้เนื้อเติบโต

เนื้อสังเคราะห์ถูกเปิดเผยครั้งแรกในปี 2013 โดยทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัย Maastricht ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งขณะนั้นมีต้นทุนในการผลิตเนื้อ 1 กิโลกรัมอยู่ที่ 478,993 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 15 ล้านบาท

แม้จะได้รับความสนใจจากทั่วโลก แต่ด้วยต้นทุนที่สูงลิบจึงยังไม่สามารถนำออกมาวางจำหน่ายได้

จนกระทั่งไม่กี่ปีมานี้มีสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีอาหารมากมายเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก เทคโนโลยีใหม่ๆ ในด้านการผลิตเนื้อสังเคราะห์ก็เกิดขึ้นมามากมาย ส่งผลให้การแข่งขันสูงขึ้น แต่ต้นทุนในการผลิตลดลง โดยล่าสุดมีต้นทุนเพียง 11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อ 1 กิโลกรัมเท่านั้น

นี่จึงกลายเป็นเทคโนโลยีแห่งความหวังของโลกในอนาคตที่อาจช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนอาหารที่เกิดขึ้นทั่วโลก

เทคโนโลยี Collaborative Represent

Collaborative Represent

เทคโนโลยีเสมือนอย่าง Augmented Reality (AR) หรือ Virtual Reality (VR) เมื่อรวมกับความเร็วในการสื่อสารผ่านโครงข่าย 5G ที่จะเข้ามาในอนาคต ต่อไปการติดต่อประสานงานไม่ใช่เพียงแค่การได้ยินเสียงหรือเห็นภาพ แต่อาจรู้สึกเหมือนกำลังนั่งทำงานอยู่ภายในห้องเดียวกันก็เป็นได้

นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาระบบเซนเซอร์คุณภาพสูง เพื่อเพิ่มฟังก์ชั่นในการสัมผัสกับอีกฝ่าย ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการประชุมในด้านการแพทย์ในอนาคต

เทคโนโลยีระบบการติดตามอาหารผ่าน Blockchain

ระบบการติดตามอาหารผ่าน Blockchain

เทคโนโลยี Blockchain จะเข้ามามีบทบาทกับอุตสาหกรรมอาหารมากขึ้นในฐานะเครื่องมือติดตามการเคลื่อนไหวของอาหาร ตั้งแต่จากฟาร์มผลิตจนถึงโต๊ะอาหาร ซึ่งจะทำให้สามารถตรวจสอบถึงความปลอดภัยจากวงจรการเคลื่อนไหวของอาหารจานนี้ได้

รวมถึงยังใช้ในการสืบค้นข้อมูลย้อนหลังหากอาหารที่ทานเข้าไปเกิดการปนเปื้อนได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งเซนเซอร์ไว้ภายในบรรจุภัณฑ์สำหรับบอกเวลาที่อาหารจะเริ่มเน่าเสีย เพื่อจะได้ดำเนินการจัดการได้อย่างทันท่วงที ช่วยให้อาหารที่ใกล้เสียหายแล้วสามารถนำไปทำให้เกิดประโยชน์อื่นๆ ได้

เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ปลอดภัยมากขึ้น

เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์เป็นแหล่งพลังงานชั้นดีที่สร้างพลังงานได้มากกว่าโรงงานไฟฟ้าหลายเท่าตัว อีกทั้งยังก่อให้เกิดมลภาวะค่อนข้างต่ำ แต่ก็มีความเสี่ยงที่ค่อนข้างสูง เพราะถ้าหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น กัมมันตภาพรังสีที่เล็ดลอดออกมาจะสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศเป็นวงกว้าง

โดยเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์รูปแบบใหม่นั้นถูกสร้างขึ้นให้มีโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุใกล้เคียงกับศูนย์ รวมถึงในกรณีฉุกเฉินก็สามารถระงับปริมาณของกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมาได้

เตาปฏิกรณ์ประเภทใหม่นี้ถูกเรียกว่า Small Modular Reactors (SMR) ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเตาปฏิกรณ์รูปแบบปกติ ในระดับที่สามารถขนย้ายผ่านรถบรรทุกได้ โดยมีการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยใหม่ในรูปแบบ Passive Safety ที่ใช้หลักฟิสิกซ์มาเพื่อควบคุมความปลอดภัยในกรณีฉุกเฉิน

ด้วยขนาดที่เล็ก และความปลอดภัยที่ถูกยกระดับขึ้น พื้นที่ห่างไกลที่ขาดแคลนพลังงานก็จะสามารถเข้าถึงไฟฟ้า และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นไปอีกได้

การยับยั้ง Intrinsically Disordered Proteins

Intrinsically disordered proteins (IDPs) คือโปรตีนชนิดพิเศษที่มีความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่างเซลล์ภายในตัวของมันได้ ซึ่งการเปลี่ยนลักษณะของมันเป็นต้นกำเนิดของโรคร้ายแรงต่างๆ อย่างเช่น โรคมะเร็ง

แต่เนื่องจากโปรตีนชนิดนี้มีโครงสร้างที่ไม่ชัดเจน สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบเซลล์ได้ตลอดเวลา จึงไม่สามารถทำการรักษาแบบเฉพาะเจาะจงได้ ทำให้การรักษาโรคที่เกิดจากโปรตีนชนิดนี้นั้นเป็นไปได้ยากมาก

แต่ปัจจุบันได้ค้นพบวิธีที่จะป้องกันและยับยั้งไม่ให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบของโปรตีน IDPs ได้แล้ว จึงมีความเป็นไปได้ว่า โลกในอนาคตอาจไม่มีผู้เสียชีวิตจากโรคมะเร็งแล้วก็เป็นได้ นี่จึงเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่จะปฏิวัติวงการแพทย์ไปตลอดกาล

เทคโนโลยี ระบบการเก็บข้อมูลผ่าน DNA

ระบบการเก็บข้อมูลผ่าน DNA

นอกจากความสำเร็จในการยับยั้งโปรตีน IDPs เทคโนโลยีทางชีวภาพอื่นๆ เองก็ถูกพัฒนาขึ้นเช่นเดียวกัน อีกหนึ่งนวัตกรรมแห่งอนาคตนั้นก็คือ ระบบการเก็บข้อมูลผ่าน DNA

เพราะในปัจจุบันมนุษย์ได้สร้างข้อมูลต่างๆ เอาไว้ในปริมาณมหาศาล ซึ่งโลกในอนาคตข้างหน้าก็จะมีข้อมูลเข้ามาอีกมากมาย ซึ่ง Server ที่มีอยู่ของมนุษย์อาจไม่เพียงพอต่อการรองรับข้อมูลในปริมาณนี้

จึงมีการคิดค้นเทคโนโลยีการกักเก็บข้อมูลไว้ภายใน DNA ของสิ่งมีชีวิต โดยจากงานวิจัยแล้ว DNA ขนาดเล็กเท่าเข็มหมุดก็สามารถจัดเก็บข้อมูลได้มากถึง 125,000 GB เลยทีเดียว

โดย DNA ที่ใช้เก็บข้อมูลนั้นไม่ได้มาจากมนุษย์หรือสัตว์ชนิดใด แต่เป็น DNA ที่สังเคราะห์ขึ้นมาภายในห้องแล็บโดยเฉพาะ จึงไม่ถือว่าเป็นเทคโนโลยีชีวภาพที่ผิดศีลธรรม

นอกจากจะเป็นการกักเก็บข้อมูลที่มีประสิทธิภาพและประหหยัดพื้นที่แล้ว ยังเป็นการลดปริมาณของขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย

แหล่งเก็บพลังงานสะอาด

การผลิตไฟฟ้าด้วยระบบพลังงานหมุนเวียนอย่าง แสงอาทิตย์ ลม หรือน้ำ ค่อนข้างมีความผันผวนเพราะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศซึ่งมนุษย์ไม่สามารถควบคุมได้ เทคโนโลยีที่สามารถกักเก็บพลังงานสำรองเอาไว้ใช้จ่ายไฟฟ้าในภายหลังได้จึงจำเป็นอย่างยิ่ง

ด้วยเทคโนโลยีอย่าง Flow Batteries, Fuel Cells หรือ Gravity Storage จะทำให้สามารถกักเก็บพลังงานทดแทนเหล่านี้เอาไว้ในช่วงเวลาที่ระบบไม่สามารถผลิตได้

Summary

นี่เป็นเพียงบางส่วนของเทคโนโลยีที่คุณจะได้พบในอนาคตเท่านั้น อย่าลืมว่ามีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา Tech Startup จึงต้องสร้างความเข้าใจในเทคโนโลยีเหล่านี้ และสรรสร้างสิ่งใหม่ที่เหนือกว่า

ความเข้าใจในเทคโนโลยีเหล่านี้ จะเป็นกุญแจที่จะทำให้คุณก้าวไปสู่อนาคตได้เร็วกว่าใคร และประสบความสำเร็จได้ไวกว่าผู้อื่น

Back