News

OCTOBER 22, 2020

KBTG เดินหน้าสู่ระดับเอเชีย จัดตั้ง Development Hub เพื่อก้าวสู่เป้าหมาย “Think of Thailand Think of KBTG”

หลังจากพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม ล่าสุด KBTG ได้เปิดตัว “สามย่าน วัลเลย์” ออฟฟิศแห่งใหม่และพื้นที่จัดแสดงนวัตกรรมทางการเงิน เพื่อเป็น Co-Innovation Space ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจของธนาคารกสิกรไทย รวมถึงแสดงกรอบวัฒนธรรมองค์กร One KBTG ในการมุ่งหน้าสู่ผู้นำบริษัทเทคโนโลยีที่แข็งแกร่ง ด้วยเป้าหมาย “Think of Thailand Think of KBTG”

ภายในงานยังอัปเดตเทคโนโลยีอีกมาก ทั้งการนำระบบ Face Recognition และ Face Pay มาใช้ในอาคาร รวมถึง 3 Fintech ใหม่ล่าสุดจาก KBTG ได้แก่ ขุนทอง แพลตฟอร์มเรียกเก็บเงิน, MAKE by KBank แอปพลิเคชันผู้ช่วยด้านการเงินรูปแบบใหม่เพื่อคนรุ่นใหม่ และ Eatable แพลตฟอร์มช่วยเหลือผู้ประกอบการร้านอาหารแบบครบวงจร โดยทั้ง 3 Fintech เกิดขึ้นภายใต้แนวคิด Contactless Technology ก้าวสู่สังคมแบบ New Normal ด้วยเทคโนโลยีไร้การสัมผัส

สำหรับ แอปพลิเคชันขุนทองมีลูกค้าดาวน์โหลดแล้ว 500,000 ราย แอป Make ดาวน์โหลดแล้ว 20,000 ราย Eatable 10,000 ราย และมีพันธมิตรใช้ Contactless Technology 20 ราย

ล่าสุด KBTG ได้พัฒนานวัตกรรมทางการเงินและการลงทุนร่วมกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สร้างแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเปิดตลาดทุนรูปแบบใหม่ในการส่งเสริมการลงทุนและระดมทุนในรูปแบบดิจิทัล

โดย นายเรืองโรจน์ พูนผล ประธานกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป (KBTG) หรือคุณกระทิง ประกาศนำทัพปักธง พา KBTG ก้าวสู่ผู้นำด้านธนาคารในกลุ่มประเทศ AEC ภายใต้แนวคิด One KBTG ปฏิรูปวัฒนธรรมและกระบวนการทำงานขององค์กร เสริมสร้างความ “Productive” ให้แก่พนักงาน เพื่อตอบสนองต่อกระแสที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของตลาด และสร้างนวัตกรรมทางการเงินเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของผู้บริโภค รวมถึงการผลักดัน KBTG ให้ก้าวสู่ Think of Thailand ในการมุ่งหน้าเป็นผู้นำบริษัทเทคโนโลยีของไทยให้ทัดเทียมระดับเอเชีย

KBTG ตอกย้ำความแข็งแกร่งในการก้าวสู่ระดับ AEC ด้วยความสำเร็จจากการบริการ QR KBank ใน สปป.ลาว และได้ขยายบริการจากเวียงจันทร์สู่สะหวันนะเขต ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าใช้บริการแล้ว 70,000 ราย และภายในปีนี้คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้บริการกว่า 200,000 ราย สำหรับเมียนมาร์ได้ร่วมมือกับเอยาวดี ฟาร์มเมอร์ ดีเวลลอปเมนท์ หรือเอแบงก์ ในการพัฒนาแอปพลิเคชัน A+ ด้วยเทคโนโลยีเดียวกับ K+ ซึ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จเช่นเดียวกันกับในประเทศไทย

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าจัดตั้ง Development Hub ใน 3 ประเทศ คือ ไทย เวียดนาม และจีน เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีให้กับธนาคารกสิกรไทยที่มุ่งสู่ดิจิทัลแบงกิ้งมากขึ้น พร้อมทั้งอ้าแขนรับตลาดแรงงานดิจิทัล ตั้งเป้าหมายมีบุคคลากร 1,900 คน ภายในปี 2568 เพื่อนำความรู้ความสามารถมาพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินออกสู่ตลาด

ส่วนในประเทศจีน ล่าสุดกับการเปิดตัว K-TECH ที่เมืองเชินเจิ้น ประเทศจีน ด้วยทุนจดทะเบียน 300 ล้านหยวน มุ่งหน้าพัฒนาเทคโนโลยีทางการเงินสำหรับธนาคารกสิกรไทยในประเทศจีนและประเทศอื่น รวมถึงพันธมิตรทางธุรกิจ โดยมีเป้าหมายขยายตลาดสู่การปล่อยสินเชื่อบุคคลรายย่อย ซึ่งเป็นตลาดใหญ่และยังมีช่องว่างทางการตลาดอีกมาก ในลักษณะที่เป็น Digital Lending

Back