Blog

Voice Search

KNOWLEDGE

Voice Commerce สร้างโอกาสทำกำไรให้ธุรกิจออนไลน์ด้วย Voice search

JANUARY 07, 2021

Voice search เป็นพฤติกรรมใหม่ในการค้นหาของผู้บริโภค เทคโนโลยีมากมายถูกพัฒนาขึ้นเพื่อตอบสนองพฤติกรรมนี้ ทั้ง Alexa, Google Assistant และ Apple Siri ซึ่งการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะธุรกิจ E-commerce

E-commerce เป็นธุรกิจที่พึ่งพาพฤติกรรมของผู้บริโภค ตั้งแต่การค้นหาสินค้าไปจนถึงการซื้อสินค้า โดย Voice search จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญต่อธุรกิจประเภทนี้ ซึ่งสร้างโอกาสทางการตลาด และเพิ่มช่องทางการทำกำไรให้กับธุรกิจ จนเกิดการพัฒนาจาก E-commerce สู่ Voice Commerce

Voice Commerce เทรนด์ใหม่รับกระแส Voice search

Voice Commerce คือ พัฒนาการของพฤติกรรมการสั่งซื้อสินค้า จากการพิมพ์สู่การสั่งซื้อสินค้าด้วยเสียง ระบบจะประมวลผลและขั้นตอนการสั่งซื้อได้ทันที โดยไม่ต้องคลิกผ่านหน้าเว็บไซต์ ซึ่งมีข้อได้เปรียบมากกว่าพฤติกรรมการสั่งซื้อแบบเดิม ทั้งในด้าน Keyword การค้นหาสินค้า และประสบการณ์ซื้อสินค้าที่ดีมากกว่า โดย Voice Commerce ทำงานผ่าน 3 ขั้นตอนดังนี้

  1. เริ่มต้นใช้งานคำสั่งเสียงผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ Voice Search เช่น สมาร์ทโฟน Amazon Echo, Google Home, Apple Home Pod
  2. คำที่ใช้ต้องเป็นประโยคคำสั่ง หรือ มี Keyword สำคัญในประโยค เช่น คำว่า “ค้นหา”, “สั่งซื้อ” หรือ”ใกล้ฉัน” เป็นต้น
  3. ใช้โทนเสียง หรือน้ำเสียงที่เหมือนกันทุกครั้งในการใช้งาน เพื่อให้ระบบจดจำเสียงของเราและป้องกันไม่ให้บุคคลอื่นเข้าสู่ระบบได้

ในปัจจุบันกระแส Voice Commerce เติบโตขึ้นพร้อมกับอุปกรณ์ Voice Assistant ซึ่ง Juniper Research ได้เปิดเผยการคาดการณ์ว่าในปี 2023 จำนวนการใช้งาน Voice Assistant จะสูงถึง 8,000 ล้านครั้งต่อปี ซึ่งสอดรับกับข้อมูลยอดขายอุปกรณ์ Voice Assistant ของประเทศไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ 2017 จนในปัจจุบันมียอดขายมากกว่า 66 ล้านตัว และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ล่าสุดอุปกรณ์ Voice Assistant ชื่อดังอย่าง Google Home ได้ร่วมกับ Walmart เปิดบริการสั่งซื้อสินค้าด้วยเสียงผ่าน Google assistant โดยผู้ประกอบการทั้งสองรายได้พัฒนาการซื้อสินค้าไปอีกระดับ ด้วยการนำเทคโนโลยี AI ร่วมกับการรวบรวมฐานข้อมูลจำนวนมาก (Big Data) เพื่อสร้างระบบจดจำพฤติกรรมการซื้อลูกค้า เช่น ปริมาณการซื้อหรือยี่ห้อสินค้า ที่ผู้บริโภคมักซื้ออยู่ประจำ เป็นต้น ทำให้การจับจ่ายใช้สอยสะดวกมากยิ่งขึ้น และช่วยเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค

Trello Software

ประโยชน์และโอกาสของธุรกิจ Voice Commerce จาก Voice search

หัวใจหลักของธุรกิจ Voice Commerce คือ เทคโนโลยี Voice search ที่ทำให้เกิดโอกาสในการขายสินค้ามากขึ้น ทั้งในด้านการสั่งซื้อสินค้า ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็ว ลดขั้นตอนการค้นหา สร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าที่ออกแบบเฉพาะบุคคล (Personalizing buying experiences) ด้วยระบบจดจำเสียงและลักษณะการซื้อสินค้า

นอกจากนี้ Voice search ยังส่งผลดีต่อการทำการตลาดแบบ Inbound Marketing โดยช่วยเสริมเรื่อง SEO ให้กับเว็บไซต์ ทำให้ Keyword ถูกค้นหาง่ายมากยิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสในทั้งในด้านการทำตลาดและการปิดการขายภายในเว็บ

สรุปประโยชน์ของธุรกิจ Voice Commerce

  • สร้าง Brand Loyalty ผ่านการสร้างประสบการ์ณซื้อส่วนบุคคล (Personalizing buying experiences) ที่ระบบสามารถจดจำลูกค้าได้ ส่งผลให้เกิดความประทับใจในการซื้อสินค้า
  • ทำให้การซื้อขายง่ายขึ้น ผ่านความสะดวก รวดเร็วในการให้บริการ ทำให้ลูกค้าสบาย ลดขั้นตอนการซื้อที่ยุ่งยากให้ง่ายด้วยการพูดสิ่งที่ต้องการ
  • เพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสต๊อกสินค้า จากการพฤติกรรมการสั่งซื้อสินค้า ทั้งการเลือกใช้คำ (Keyword) และประเภทสินค้าที่ลูกค้าซื้อบ่อย ทำให้สามารถจัดสต๊อกสินค้าเพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มที่ใช้ Voice search ได้พอเหมาะและมีประสิทธิภาพ
  • เพิ่มยอดขาย ลดขั้นตอนและระยะเวลาการสั่งซื้อ โดยข้อนี้พิสูจน์มาแล้วจาก Domino’s Pizza ที่เพิ่มฟังก์ชั่นการสั่งงานด้วยเสียง ซึ่งผลตอบรับคือยอดขายเพิ่มขึ้นกว่า 5 แสนออเดอร์

ธุรกิจ Voice Commerce ต้องทำอะไรบ้างเพื่อรองรับ Voice search

Voice commerce ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เอง แต่ต้องผ่านการพัฒนาระบบและรูปแบบการใช้งานให้รองรับ Voice search โดยสิ่งที่ธุรกิจต้องปรับตัวมีดังนี้

  • เพิ่มอุปกรณ์ที่รองรับการใช้งานด้วยคำสั่งเสียง เช่น Amazon Echo หรือ Google Home เป็นต้น
  • เปลี่ยน Keyword จากภาษาเขียนเป็นภาษาพูดหรือ ปรับให้เป็นประโยคสนทนามากขึ้น ทั้งเนื้อหาเว็บไซต์และภาษาที่ใช้ในบทความ
  • ปรับความเร็วของเว็บไซต์ (Page Speed) ให้รองรับพฤติกรรมการค้นหาที่รวดเร็วของ Voice search เพื่อลดปัญหาการรอคอยของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพในด้าน SEO
  • ในกรณีที่มีเว็บไซต์ของตัวเอง ควรพัฒนาฟีเจอร์เว็บไซต์ให้รองรับคำสั่งเสียง

Evernote Software

ตัวอย่างการใช้งาน Voice Commerce กรณีศึกษา 7-Eleven

สำหรับตัวอย่างการใช้งาน Voice Commerce ในครั้งนี้เป็นการเชื่อมต่อระหว่าง E-Commerce จากออนไลน์สู่ออฟไลน์ โดยไม่ต้องมีแพลตฟอร์มเว็บไซต์ ซึ่งธุรกิจที่สามารถทำได้คือ 7-Eleven

7-Eleven ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เปลี่ยนโฉมการซื้อสินค้าแบบใหม่ ด้วยการเปิดรับคำสั่งสินค้าด้วยเสียงผ่านระบบที่ชื่อว่า 7 Voice เฉพาะ Amazon Alexa และ Google Home เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน 7 Now และสมัครสมาชิก ก็สามารถสั่งสินค้าด้วยเสียงได้แล้ว โดยระบบจะจดจำที่อยู่ของผู้สั่งและสามารถติดตามสถานะสินค้าแบบเรียลไทม์อีกด้วย

ถึงแม้ว่ายังไม่มีสถิติรองรับเกี่ยวกับการเพิ่มบริการ Voice Commerce ของ 7-Eleven ว่าสามารถทำกำไรหรือเพิ่มรายได้มากขึ้นเท่าไร แต่อย่างน้อยการปรับมาใช้ Voice Commerce ก่อนเจ้าอื่น ก็ทำให้ 7-Eleven สามารถดำเนินธุรกิจในช่วงวิกฤติโควิด-19 ได้โดยแทบไม่ต้องปรับตัวเลย

Summary

Voice search เป็นอีกหนึ่งในเทรนด์เทคโนโลยีที่ส่งผลให้หลายธุรกิจต้องปรับตัว และถือเป็นการสร้างโอกาสในการทำกำไรผ่านพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ผ่านการเปลี่ยนรูปแบบจาก E-commerce สู่ Voice Commerce ที่ตอบสนองพฤติกรรมและอำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น เพียงแต่ธุรกิจต้องพัฒนาทั้งในด้านการทำการตลาดและแพลตฟอร์ม ให้รองรับกับโอกาสเข้ามาจากพฤติกรรมผู้บริโภคเท่านั้นเอง

Back